หลังจากสู้คดีมาเป็นเวลานาน เบนซ์ เรซซิ่ง หรือ อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช อดีตสามีของดาราสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ก็ได้ออกมาเปิดใจในรายการ เคลียร์ให้จบ ช่อง New 18 ที่มี บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นพิธีกร ถึงเรื่องราวต่างๆอยู่เงียบๆ มาตั้งนาน จู่ๆ วิ่งโร่ไปหาตำรวจ เกิดอะไรขึ้น?
ตั้งแต่ออกมาก็อยู่เงียบๆ ไม่อยากเป็นข่าวบนสื่อเท่าไหร่ แต่พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้น ก็คิดว่าเราควรออกมาพูดอะไรบ้าง เพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองและครอบครัว ถูกต้องครับ เรื่องราวเกิดจากการฟ้องร้องทนายความที่เราเคยว่าจ้างและเกิดการโกงเงินไป เราไม่รู้เขาคิดทำจริงหรือไม่จริงแต่เพื่อความปลอดภัย เราป้องกันตัวเองไว้ก่อน
ตอนมีคดีความก่อนหน้านี้ ผมต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำรอพิจารณาคดี พออยู่ข้างในการดำเนินการทำอะไรมันค่อนข้างลำบาก ในการเตรียมหาหลักฐานต่อสู้คดี เตรียมเอกสาร ยังดีที่มีครอบครัวช่วยดำเนินการให้ เราก็หวังว่าถ้าเราได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก็จะเป็นการดี จะได้มาเตรียมหลักฐานในการต่อสู้คดี เราก็ยื่นคำร้องมาโดยตลอด แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะอัตราโทษสูง ศาลกลัวจะหลบหนีคดี ผมก็เข้าใจในจุดนี้ เพราะมีคนจำนวนมากที่หนีเหมือนกัน ทางผมก็บริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด เราต่อสู้มาตลอด แต่เรามีความหวังว่าถ้าเราได้ออกมาจะเตรียมหลักฐานได้ง่ายกว่า เพราะเรื่องเอกสาร บัญชีมีเราคนเดียวที่รู้ทั้งหมดว่ายอดไหนคือค่าอะไร
มีคนแนะนำมาอีกที ตอนแรกมีทนายว่าความให้อยู่แล้ว คนนี้มาเสนอว่าจะมาทำคดีให้ และจะยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวให้ ตอนนั้นเราก็ค่อนข้างมีความหวัง มีทนายเข้ามาหาเป็น 10-20 คน แต่ทนายคนนี้ดูแล้วน่าเชื่อถือ มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
มีการเข้ามาเยี่ยม บอกว่าเดี๋ยวจะมีทนายความคนใหม่ ให้เราเซ็นรับแต่งตั้งทนายความคนนี้ เขาจะมาดูเรื่องคดีให้ และดูเรื่องปล่อยตัวชั่วคราว โดยทำด้วยวิธีใดแล้วแต่ทนายจัดการ” ตกลงกันที่ 3.1 ล้าน ที่ดูว่าเยอะ เพราะว่าในการขอประกันตัวครั้งแรก เรายื่นไปแล้ว 3 ล้าน ครั้งต่อๆ ไปก็ไม่ควรน้อยไปกว่าเดิม หลายคนอาจตกใจว่าทำไมถึงกล้าจ้างในราคาสูง ราคาอาจรวมหลักทรัพย์ในการประกันตัวด้วย ในสัญญาตกลงกันไว้ว่าถ้าทำไม่ได้ตามวันที่กำหนด ต้องคืนเงิน 3 ล้านบาททันที 1 แสนคือค่าดำเนินการ
เคสก่อนหน้าผมอีก เราก็ยื่นไปที่สภาทนายความว่าเขาทำผิดเรื่องที่ตกลงกันไว้ สภาทนายความก็บอกว่าเขาโดนถอนไปแล้วก่อนเคสเราอีก ก็แสดงว่าเขาเคยทำแบบนี้ก่อนหน้าเรามาก่อน เขาไม่คืนเงิน เงียบหายไปและติดต่อไม่ได้
ถ้าลำดับเหตุการณ์จริงๆ ส่วนที่เขาโกงเงินส่วนนี้ไป เรามีการฟ้องศาลแพ่งว่าผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ จนศาลแพ่งมีคำสั่งว่าให้ชดใช้ในส่วนนี้ แต่เขาก็นิ่งเฉยไม่ชดใช้อะไร ศาลแพ่งให้เขาชดใช้ 3 ล้านพร้อมดอกเบี้ย แต่ระหว่างฟ้องศาลแพ่ง เขาก็มาฟ้องกลับทางคุณแม่ว่าเราไปฟ้องเท็จเขา เอาเอกสารใดๆ มาฟ้องจนทำให้เขาได้รับโทษเสื่อมเสียชื่อเสียงว่าเขาไปโกง แต่ศาลพิจารณาแล้วยกคำร้องว่าไม่มีมูล เราก็ฟ้องกลับเขาฟ้องเท็จเหมือนกัน ถ้าศาลเชื่อว่าทางคุณแม่ฟ้องเท็จก็มีโทษเหมือนกัน เราก็เลยฟ้องเท็จกลับไป
โทรหาคุณแม่ บอกว่าให้ไปถอนฟ้องซะ เพราะพรุ่งนี้ต้องไปขึ้นศาลแล้ว ศาลจะไต่สวนมูลฟ้อง พอดีอัดคลิปเสียงไว้ด้วย เขาบอกว่าให้ถอนฟ้องถ้าไม่อยากเดือดร้อน เดี๋ยวจะมาจับยากับพี่ชาย ทำนองว่ามายัดยาเสพติดกับพี่ชาย เพราะแม่กับพี่ชายเป็นคนติดต่อธุระให้แทนตลอด ตอนอยู่ข้างในผมไม่สามารถดำเนินการได้ เขาบอกว่ามีคดีความกับใครก็ให้ไปถอนฟ้อง ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ผู้ใหญ่สั่งมา
แพทริเซีย ควง โน้ต วิเศษ บริจาคเลือด สู้โควิด-19
ถือเป็นอีกหนึ่งนางเอกใจบุญ สำหรับดาราสาว แพทริเซีย กู๊ด ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ได้ลงมือแพ็กกล่องหน้ากากอนามัยด้วยตัวเอง จำนวน 2,500 ชิ้น เพื่อนำไปบริจาคให้โรงพยาบาลสมุทรปราการ บ้านพักคนชราบางละมุง และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา
ล่าสุดแพทริเซีย ก็ได้ชวนหวานใจ ไฮโซโน้ต วิเศษ ไปบริจาคเลือดให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด ทำให้โลหิตขาดแคลนทั่วประเทศ แพทริเซียได้โพสต์รูปภาพขณะที่มาบริจาคโลหิตลงอินสตาแกรม พร้อมถือป้าย “วันนี้ดีใจ…ที่ได้มาช่วย ครบบริจาคโลหิต 3 เดือนพอดี”
เจ้าตัวยังเขียนข้อความว่า “ช่วงนี้นอกจากหน้ากากอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนแล้ว เลือดก็ยังขาดแคลนมากๆ เช่นกันค่ะ ถ้าใครสะดวก สุขภาพแข็งแรงมาช่วยบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย และรีบกลับบ้านกันนะคะ #ให้เลือดฝ่าวิกฤติcovid19”
นอกจากนี้โน้ตก็ได้โพสต์รูปคู่กับแพทริเซีย ขณะอยู่ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ลงในไอจีสตอรี่ พร้อมกับเขียนข้อความว่า “เลือดยังไม่พอสำหรับโรงพยาบาลทั่วประเทศด้วยนะครับ #ให้เลือดฝ่าวิกฤตCOVID19”
เราบริสุทธิ์ใจ เราสู้คดีนี้มาตลอด ผมก็กังวลไม่รู้เขาจะมาทำอะไรเราหรือเปล่า คาดเดาไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเขาบริสุทธิ์ใจจริง ไม่ต้องมาทำวิธีนี้หรอก เอาหลักฐานมาสู้คดีกัน มีภาพข่าวของสื่อบางสำนักที่เอาแฟ้มภาพเก่ามาลง ซึ่งเป็นทนายความสิทธิโชค คนจะเข้าใจผิดว่าทนายคนนี้โกงไป จริงๆ ต้องขอบอกว่าไม่ใช่ทนายสิทธิโชคที่โกง เขาเป็นทนายคนแรกที่มาดูแลคดีให้
ก่อนเข้าไป เราก็เตรียมใจไว้ล่วงหน้า เราจะไม่เผื่อใจไว้เลยก็ไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจเข้าไป แต่เตรียมใจคิดว่าไม่นาน สักอาทิตย์สองอาทิตย์รอทำเรื่องประกันตัว แต่ลากไปยาว 1 ปี 3 เดือน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป